NEWS & BLOG

Cover MOU SKPxASA

Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR

          กรุงเทพฯ, 24 มิถุนายน 2568 –บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ออกแบบในประเทศไทย จับมือกับ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ ณ โรงแรม Anantara Siam Bangkok เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับสถาปนิกและบุคลากรในวิชาชีพสถาปัตยกรรม

          ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ครอบคลุมถึงการจัดอบรมเชิงเทคนิค การเข้าถึงซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้ และการสนับสนุนเทคโนโลยีในหลากหลายมิติ ทั้ง Trimble, SketchUp, BIM, AI, VR และ Archviz ซึ่งถือเป็นกลุ่มเทคโนโลยีสำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการออกแบบในระดับโลก โดยเฉพาะ SketchUp ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลกในฐานะเครื่องมือที่ช่วยเร่งกระบวนการออกแบบแนวคิด (Conceptual Design) ให้เร็วขึ้น สื่อสารชัดเจนขึ้น และต่อยอดสู่การทำงานร่วมกับ BIM ได้อย่างไร้รอยต่อ

         คุณกอพล เลียวไพโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด กล่าวความร่วมมือครั้งนี้ว่า

“ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ SketchUp และ Trimble เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้สถาปนิกไทยได้เข้าถึงเครื่องมือระดับโลก พร้อมการสนับสนุนทั้งด้านเทคนิคและทรัพยากรอย่างเต็มที่”

         คุณอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ กล่าวเสริมว่า

“เรามองเห็นว่าการเสริมทักษะดิจิทัลให้กับสมาชิกในสายวิชาชีพคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาวิชาชีพให้ทันยุค AI ซึ่งการจับมือกับภาคเอกชนอย่าง Digitech One และซอฟท์แวร์ชั้นนำอย่าง SketchUp จะช่วยให้เราก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างมั่นคง

“ความร่วมมือครั้งนี้คือประตูบานใหม่ ที่จะเปิดโอกาสให้สถาปนิกไทยได้ก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างมั่นใจ เรากำลังพูดถึงมากกว่าการใช้ซอฟต์แวร์ แต่เป็นการวางรากฐานของการเรียนรู้ เทคโนโลยี และการพัฒนาทักษะที่ตอบรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น BIM, AI, VR หรือ SketchUp และ Trimble ทุกเครื่องมือที่เราเตรียมไว้ คือ ‘พลังเสริม’ ที่จะช่วยให้สถาปนิกไทยออกแบบได้ลึกกว่า เร็วกว่า และสร้างสรรค์ได้ไกลกว่าที่เคย และต่อยอดความสามารถสู่ระดับสากล”

         Mr. Sean Baptist (Senior Regional Sales Manager, APAC) กล่าวปิดท้ายว่า

“Partnership นี้คือก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมไทยเข้าสู่เวทีระดับโลก และ SketchUp พร้อมสนับสนุนด้วยโซลูชันที่เน้นความยืดหยุ่นและความเร็วในการพัฒนาแนวคิด”

พิธีลงนามครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญญา แต่เป็นการวางรากฐานสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับวิชาชีพสถาปัตยกรรมไทย ทั้งในด้านการศึกษาต่อเนื่อง การฝึกอบรม และการสนับสนุนเครื่องมือที่สอดคล้องกับความต้องการของสถาปนิกยุคใหม่

SketchUp Thailand พร้อมก้าวไปพร้อมกับทุกการเปลี่ยนแปลงของวงการออกแบบไทย ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ “เสริมพลังให้สถาปนิกไทยสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด”

เกี่ยวกับองค์กร

เกี่ยวกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
เป็นสมาคมวิชาชีพหลักของสถาปนิกไทย ดำเนินงานเพื่อส่งเสริม พัฒนา และคุ้มครองวิชาชีพสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์

เกี่ยวกับบริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด
ผู้จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ออกแบบชั้นนำในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่าย SketchUp อย่างเป็นทางการ พร้อมทีมเทคนิคและการตลาดที่สนับสนุนลูกค้าในกลุ่ม AEC (Architecture, Engineering, Construction) อย่างครบวงจร

เกี่ยวกับ SketchUp
SketchUp คือแพลตฟอร์มการออกแบบ 3 มิติที่ใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นที่นิยมในกลุ่มสถาปนิก วิศวกร และนักออกแบบทั่วโลก รองรับการทำงานร่วมกับ BIM และ Plugins อย่าง V-Ray, Enscape, Trimble X9, และ AI Toolkits

📞 ติดต่อสื่อมวลชน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ – SketchUp Thailand
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด
คุณคณิตา เตรณานนท์
โทร: 02-849 2508
อีเมล: kanita.t@digitechone.co.th, softwareteam@digitechone.co.th

เว็บไซต์: www.sketchupthailand.com

Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR
Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR
Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR
Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR

Digitech One จับมือ สมาคมสถาปนิกสยามฯ รุกดิจิทัลทรานส์ฟอร์มวงการสถาปัตย์ไทย เปิดทางสู่ยุค AI–BIM–VR

1200 x 800 Digitech One ร่วมกับ HCL SOFTWARE, NETAND และ ENTRUST

Digitech ร่วมกับ HCL Software, NETAND และ ENTRUST จัดงานสัมมนา “NextGen IT Service & Cyber Security” เปิดมุมมอง เสริมเกราะภัยรับมือไซเบอร์ยุคใหม่

       บริษัท Digitech One Co., Ltd. ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่ HCL Software, NETAND และ Entrust จัดสัมมนาใหญ่ภายใต้หัวข้อ “NextGen IT Service & Cyber Security”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการบริการด้าน IT และความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างรอบด้านสำหรับองค์กรในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน ให้แก่ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่าง ๆ

         ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.วรี ทันเทียนานนท์ – Senior Area Sales Director จาก HCL Software  ขึ้นกล่าวเปิดงานต้อนรับผู้เข้าร่วม พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มของภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ และการพัฒนาโครงสร้าง IT ที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และสามารถตอบสนองต่อธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         ตลอดทั้งวัน วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในระดับประเทศและระดับสากลได้ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยมีหัวข้อสำคัญมากมาย อาทิ

         ได้รับเกียรติจาก Mr. Mohit Jain – Associate Director, HCL Software Engineering  มาร่วมบรรยาย ในหัวข้อ “Enterprise Security Overview ” ซึ่งจะเจาะลึกภาพรวมของสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในระดับองค์กร พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการความเสี่ยงแบบองค์รวม รวมถึงแนวทางในการลดช่องโหว่ของระบบไอทีที่อาจถูกโจมตีจากภัยไซเบอร์ในหลากหลายรูปแบบ

           และได้รับเกียรติจาก Mr. Austrin Alick – Associate Manager, HCL Software Engineering มาพูดคุย ในหัวข้อ “BigFix ITSM: Streamlining Endpoint and Service Operations”  อธิบายการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์ม BigFix เพื่อบริหารจัดการอุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint Management) และระบบบริการ IT (ITSM) ให้มีความปลอดภัย รวดเร็ว และสามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ ลดภาระของทีม IT และยกระดับความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูล

                และได้รับเกียรติจาก คุณอดิศร เขมวิชัย (CISSP) – Assistant Security Consulting Manager, Digitech One  ที่จะมาพูดคุย ในหัวข้อ “Post Quantum & Key Management Strategies with Entrust ”  ความท้าทายขององค์กรในยุคที่เทคโนโลยี Quantum Computing กำลังมาเปลี่ยนโฉมโลกไซเบอร์ พร้อมแนะนำแนวทางจัดการกุญแจเข้ารหัส (Key Management) ที่ปลอดภัย รองรับโลกหลังควอนตัม เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญจากการถอดรหัสล่วงหน้า

          อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก คุณวัชระ แม้นจริง – Senior Technical Consultant Manager, Digitech One ที่มานำเสนอ ในหัวข้อ “Powering Secure Access Management with NETAND” แนวคิดเรื่องการจัดการสิทธิ์เข้าถึง (Access Control) ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยผ่านเทคโนโลยีของ NETAND ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรควบคุมผู้ใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างแม่นยำและตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

         บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยเนื้อหาเข้มข้นที่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ แก่ผู้เข้าร่วมซึ่งล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายไอที ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และผู้มีบทบาทในการตัดสินใจขององค์กร

         สัมมนาครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Digitech One และพันธมิตรในการผลักดันให้องค์กรไทยสามารถยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทายของโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

20140407_132000000_iOS
20140407_121314000_iOS

1200 x 800 DIGITECH ONE ร่วมกับ UIH และ RUCKUS จัด Workshop

DIGITECH ONE ร่วมกับ UIH และ RUCKUS จัด Workshop เชิงลึก “Virtual SmartZone High Scale Hands-on Workshop” ยกระดับทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่าย

, , , , , , , , , /

          DIGITECH ONE และพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลก RUCKUS  ร่วมกับ บริษัท UIH (United Information Highway)   United Information Highway (UIH)  ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานการของไทย ได้จัดงาน “Virtual SmartZone High Scale Hands-on Workshop  เพื่อถ่ายทอดความรู้เชิงเทคนิคเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบเครือข่ายไร้สายแบบรวมศูนย์ผ่านแพลตฟอร์ม RUCKUS SmartZone   ณ ห้องประชุม UIH อาคารเบญจจินดา

         ภายในงาน ได้กล่าวเปิดงาน โดย  คุณพงษ์วุฒิ อัศนีวุฒิกร – Business Development, Ruckus Networks  กล่าวว่า “Ruckus Networks มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ DIGITECH ONE และ UIH ในการจัด Workshop ในครั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าการเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการเครือข่ายผ่านแพลตฟอร์ม SmartZone จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เชี่ยวชาญในองค์กรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         งานในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่ยังเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้เชิงลึกระหว่างทีมงานและผู้เข้าร่วม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายของประเทศไทยให้ก้าวทันโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

                  อีกทั้ง ยังได้รับเกรียติจาก คุณ ธีระพล สุขประไพพัฒน์ – System Engineer, Ruckus Networks  มาร่วมเป็นวิทยากร บรรยายถ่ายทอดความรู้เชิงเทคนิคเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบเครือข่ายไร้  , เพิ่มทักษะ และความเข้าใจในการบริหารจัดการระบบ SmartZone ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการเครือข่ายแบบรวมศูนย์จาก RUCKUS  

       งานในครั้งนี้ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับวิศวกรระบบ ผู้ดูแลระบบเครือข่าย และผู้เชี่ยวชาญ IT จากองค์กรต่าง ๆ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ภาคบรรยาย และ ภาคปฏิบัติ (LAB) ครอบคลุมการจัดการระบบเครือข่ายด้วย SmartZone  ซึ่งจะเน้นลงมือปฎิบัติจริงเต็มวัน โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจตลอดวัน อาทิ  การแนะนำ SmartZone และการตั้งค่าระบบเบื้องต้น ,  Domain Administration และ Zone Configuration  , LAB ฝึกปฏิบัติใช้อุปกรณ์ Ruckus จริง รวม 5 ชุด อาทิ การกำหนดค่า WLAN, Access Point, การมอนิเตอร์และการแก้ไขปัญหา 

         ปิดท้ายด้วยกิจกรรมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับทีมวิทยากรและเจ้าหน้าที่เทคนิคจาก DIGITECH ONE และ Ruckus โดยตรง รวมถึงการสัมผัสเทคโนโลยีระบบเครือข่ายล่าสุดที่ใช้งานในระดับองค์กรจริง

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

DIGITECH ONE ร่วมกับ UIH และ RUCKUS จัด Workshop เชิงลึก “Virtual SmartZone High Scale Hands-on Workshop” ยกระดับทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่าย
DIGITECH ONE ร่วมกับ UIH และ RUCKUS จัด Workshop เชิงลึก “Virtual SmartZone High Scale Hands-on Workshop” ยกระดับทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่าย

1200 x 800 Digitech One จัดงาน “Cybersecurity Solutions Enablement”

Digitech One ร่วมกับ Ivanti, i-Sprint, OneSpan และ Supermicro จัดงานสัมมนาใหญ่ “Cybersecurity Solutions Enablement” ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์เพื่อรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

       Digitech One ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Ivanti, i-Sprint, OneSpan และ Supermicro ได้จัดงานสัมมนาเชิงเทคนิค “Cybersecurity Solutions Enablement 2025” ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ความรู้และส่งเสริมความเข้าใจด้าน Cybersecurity แก่องค์กรไทยในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น

       การจัดงานครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ Digitech One ที่ต้องการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม พร้อมอัปเดตนวัตกรรมล่าสุดในการปกป้องระบบไอทีขององค์กรให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามในโลกดิจิทัล 

           ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก Mr. Yong Hua Yeo – Ivanti Sales Engineer ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบไอทีจาก Ivanti มาร่วมบรรยายในหัวข้อ “Ivanti: Securing the Modern Enterprise”
โดยเนื้อหาครอบคลุมความสำคัญของ Endpoint Security และ Patch Management ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ที่แฮกเกอร์มักใช้เป็นช่องทางเจาะเข้าสู่ระบบ

Mr. Yong Hua Yeo ชี้ให้เห็นว่า ในยุคที่อุปกรณ์ปลายทาง (Endpoints) ของทั้งพนักงานและระบบ IoT กระจายตัวมากขึ้น ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการกลายเป็นจุดอ่อนที่ต้องได้รับการจัดการอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ การอัปเดตแพตช์อย่างสม่ำเสมอ และการติดตามความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ จึงเป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่องค์กรจำเป็นต้องนำมาใช้

          นอกจากนี้ ยังมีการ สาธิตการใช้งานจริงของ “Ivanti Neurons Platform” แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Machine Learning เพื่อช่วยบริหารจัดการระบบไอทีแบบอัตโนมัติ ตรวจจับ ป้องกัน และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระงานฝ่าย IT และเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลระบบในองค์กรได้อย่างชัดเจน

          และ ได้รับเกียรติจาก คุณศิลป์ชัย นันทโชคเกียรติ์ –  Business Development and Channel Manager จาก i-Sprint มาพูดคุยในหัวข้อ “Securing the Future of Mobile Applications with Runtime Protection ” โดยเน้นย้ำถึงแนวทางในการปกป้องแอปพลิเคชันบนมือถือจาก การโจมตีในขณะรัน (Runtime Attacks) และการป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกดึงไปผ่านวิธี Reverse Engineering รวมถึงการลดความเสี่ยงของ Data Breach ซึ่งเป็นภัยเงียบที่อาจสร้างความเสียหายทางชื่อเสียงและการเงินให้กับองค์กร

           และ ได้รับเกียรติจาก คุณ วัชระ แม้นจริง  – Senior Technical Consultant Manager จาก Digitech One นำเสนอหัวข้อ “OneSpan: Empowering Digital Trust ”  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สร้าง ความน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล (Digital Trust) ระหว่างผู้ใช้งาน ระบบ และองค์กร โดยมุ่งเน้นเรื่อง การยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย, การทำธุรกรรมออนไลน์ที่มั่นใจได้, และ การป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของโลกธุรกิจยุคดิจิทัลที่ต้องเผชิญภัยคุกคามที่ซับซ้อนและแอบแฝงมากขึ้นทุกวัน

          อีกทั้ง ยังได้รับเกียรติจาก คุณอดิศร เขมวิชัย (CISSP) ตำแหน่ง Assistant Security Consulting Manager จากบริษัท Digitech One มาอัปเดต โซลูชัน Server และ Data Center ในหัวข้อ “Server Solutions Powering Modern IT “  ที่มีบทบาทสำคัญของระบบเซิร์ฟเวอร์และ Data Center ในฐานะ “รากฐาน” ของเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Cloud, AI, Big Data หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กรในอนาคต  โดยมีการแนะนำโซลูชันจาก Supermicro ที่เน้นประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน รองรับการขยายตัว และออกแบบมาเพื่อรองรับงานหนักในระดับ Enterprise จากแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลก

          ภายหลังจากช่วงบรรยาย ผู้เข้าร่วมงานยังได้ร่วมกิจกรรม Quiz Game ชิงของรางวัล สนุกสนาน พร้อมทั้งใช้เวลาในช่วงกลางวันเพื่อ Networking กับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอุตสาหกรรม สร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและการเรียนรู้ร่วมกัน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความรู้ ความร่วมมือ และแรงบันดาลใจที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไทยให้ก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

1200 x 800 Digitech One ร่วมกับ RUCKUS ลงนามสัญญาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

Digitech One ร่วมกับ Ruckus ลงนามสัญญาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายไร้สาย เทคโนโลยี AI ยกระดับสู่สากล

         บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด และ RUCKUS ได้ร่วมลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor Agreement) อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดจำหน่ายระบบเครือข่ายไร้สายที่ขับเคลื่อนด้วยโซลูชัน AI อัจฉริยะอย่างเป็นทางการโดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายให้กับภาคธุรกิจไทย พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

         โดยบริษัท ดิจิเทควัน จำกัด ผู้นำเข้าและให้บริการด้านโซลูชันด้านไอทีแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบเครือข่ายจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก โดยมุ่งมั่นนำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้ร่วมมือกับ RUCKUS ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและโซลูชันอัจฉริยะสำหรับจะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายให้กับภาคธุรกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ

        RUCKUS เป็นที่รู้จักในด้าน Wi-Fi, สวิตช์เครือข่าย, ระบบจัดการเครือข่ายผ่านคลาวด์ และโซลูชันเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้ธุรกิจมีเครือข่ายที่เสถียร ปลอดภัย และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถมีเครือข่ายที่เร็วขึ้น เสถียรขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัล

         ด้าน คุณกุลภา อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการผู้บริหาร  บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด กล่าวถึงการร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Digitech One และ RUCKUS ในการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านโซลูชันเครือข่าย เราเชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สนับสนุนให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง ”

         คุณ Teck Meng Kho – Regional Sales Director – RUCKUS กล่าวเสริมว่า “การเติบโตของลูกค้าคือเป้าหมายของเรา และเรามั่นใจว่าความร่วมมือกับ Digitech One จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถก้าวไปสู่อนาคตที่มีการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งหนึ่งในความท้าทายสำคัญคือความสามารถในการบริหารจัดการเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และนี่คือสิ่งที่ RUCKUS และ Digitech One พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”

        ด้วยโซลูชันจาก RUCKUS ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อไร้สายให้มีความเร็ว เสถียรภาพ และความปลอดภัยที่สูงขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการระบบเครือข่ายได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

        สิ่งที่ทำให้ RUCKUS แตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด คือการออกแบบเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย (Purpose-Driven Networks) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุด แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI เข้าไว้ในระบบเครือข่ายแบบบูรณาการ (Converged Network Assurance) ทำให้สามารถมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานทุกระดับ

          อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ RUCKUS คือความยืดหยุ่นในการรองรับระบบ LAN, WLAN และ IoT ภายใต้โครงข่ายเดียวกัน รวมถึงการรองรับมาตรฐานแบบเปิด (Open Standards), Open APIs และระบบอัตโนมัติที่ครอบคลุมทั้งองค์กร ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามหรือแอปภายในองค์กรได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งองค์กรขนาดใหญ่และผู้ให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         ในด้านของนวัตกรรม RUCKUS ยังได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยในปีที่ผ่านมา Wi-Fi Alliance® ได้เลือก Access Point ในตระกูล Wi-Fi 7 ของ RUCKUS เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำหรับใช้ในชุดทดสอบความเข้ากันได้ของมาตรฐาน Wi-Fi CERTIFIED 7™ ซึ่งถือเป็น Access Point เชิงพาณิชย์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับเลือก นับเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพในการสร้างเทคโนโลยี Wi-Fi ที่มีความสามารถสูงสุดในตลาด และพร้อมรองรับอุปกรณ์ยุคใหม่ทั่วโลก

         ด้วยความแข็งแกร่งในทุกมิติของ RUCKUS ที่ครอบคลุมทั้งนวัตกรรม ความเสถียร การเชื่อมต่อที่ชาญฉลาด และการผสานเทคโนโลยีอย่างลงตัว ความร่วมมือในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถยกระดับการเชื่อมต่อสู่ระดับสากลได้อย่างแท้จริง

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

1200 x 800 Digitech One ร่วมงาน D1 Insurance

Digitech One ร่วมงาน D1 Insurance Technology Update 2025 ยกระดับความปลอดภัยธุรกิจประกันภัย เสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์ ด้วยโซลูชัน Entrust

         บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้บรรยายหลักในงาน D1 Insurance Technology Update 2025 ภายใต้ธีม “Adapting to the Future”  โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดเวทีให้กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมประกันภัย ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัล

          ภายในงานได้รับเกีรยติจาก คุณอดิศร เขมวิชัย (CISSP) ตำแหน่ง Assistant Security Consulting Manager จากบริษัท Digitech One Co., Ltd. ได้ขึ้นเวทีบรรยายในหัวข้อ “Enhancing Insurance Security with Entrust: Identity & Data Protection” โดยเนื้อหาการบรรยายเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการตัวตน (Identity) และการปกป้องข้อมูล (Data Protection) โดยใช้โซลูชันจาก Entrust ซึ่งเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยระดับโลก เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นคง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบในระบบประกันภัย ด้วยการปกป้องข้อมูลและตัวตนจาก Entrust ในยุคที่ธุรกิจประกันภัยต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าและระบบภายในองค์กร จึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และเจาะลึกถึงแนวทางการนำโซลูชันของ Entrust มาใช้ในการเสริมสร้างระบบความปลอดภัย ทั้งในมิติของการ ยืนยันตัวตน (Identity Protection) และการ ปกป้องข้อมูลสำคัญ (Data Protection) เพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นใจภายใต้ข้อกำหนดและมาตรฐานสากล

         โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค AI, Cloud และ Digital Transformation ที่ทำให้ข้อมูลถูกส่งผ่านและเข้าถึงได้จากหลายจุด การมีระบบที่สามารถป้องกันการโจมตีจากภายนอก และควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงภายในได้อย่างเข้มงวด จึงเป็นหัวใจสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มความน่าเชื่อถือขององค์กร

         การบรรยายได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายองค์กรภาคประกันภัย ทั้งระดับผู้บริหารและฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “Cybersecurity” ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยี แต่เป็นหัวใจของความเชื่อมั่นในธุรกิจยุคใหม่

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

Digitech One ร่วมงาน D1 Insurance Technology Update 2025 ยกระดับความปลอดภัยธุรกิจประกันภัย เสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์ ด้วยโซลูชัน Entrust
Digitech One ร่วมงาน D1 Insurance Technology Update 2025 ยกระดับความปลอดภัยธุรกิจประกันภัย เสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์ ด้วยโซลูชัน Entrust
Digitech One ร่วมงาน D1 Insurance Technology Update 2025 ยกระดับความปลอดภัยธุรกิจประกันภัย เสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์ ด้วยโซลูชัน Entrust

1200 x 800 Digitech One ' ร่วมกับ ' Partner Exclusive จัดงาน Digitech One Innovation Day 2025 พลิกโฉมธุรกิจด้วย AI-Driven Solutions (1)

Digitech One ‘ ร่วมกับ ‘ Partner Exclusive จัดงาน Digitech One Innovation Day 2025: พลิกโฉมธุรกิจด้วย AI-Driven Solutions

          บริษัท Digitech One ได้จัดงาน Digitech One Innovation Day 2025 ภายใต้แนวคิด “The Future of AI-Driven Business Solution”  โดยมีผู้นำด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายธุรกิจชั้นนำเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น Juniper Networks, OneSpan, Ruckus, Entrust, Netand, Supermicro, HCL Software, I-Sprint, Ivanti,  LMS, Chaos, Timble Connect AR,  LookX AI,  Spacely AI,  Roland/Dimense และ SketchUp   งานนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวโน้มล่าสุด เรียกได้ว่า เป็นสุดยอดเวทีสัมมนาและนวัตกรรม AI เพื่อธุรกิจ เมื่อวัน ศุกร์ที่  28 กุมภาพันธ์ 2025 พี่ผ่านมา

          นำโดย คุณกุลภา อิงค์ธเนศ กรรมการบริหาร จากบริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด กล่าวเปิดงาน Digitech One Innovation Day 2025: พลิกโฉมธุรกิจด้วย AI-Driven Solutions  อย่างเป็นทางการ พร้อมตอกย้ำบทบาทของ AI ในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจยุคใหม่ คุณกุลภา กล่าวว่า  “ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเราทุกคน ในการเดินหน้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน แต่ยัง “พลิกโฉม” กระบวนการคิด การตัดสินใจ และศักยภาพของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดมุมมองใหม่ให้ภาคธุรกิจไทย พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตด้วยนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างมั่นคงและยั่งยืน “

โดยภายในงานนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหัวข้อหลัก ได้แก่ Network & Security และ Software ซึ่งครอบคลุมแนวโน้มเทคโนโลยีล่าสุดที่จะช่วยยกระดับองค์กรในยุคดิจิทัล โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์จริง

          เริ่มต้นด้วยการนำเสนอ Technology Trends 2025 โดยวิทยากรพิเศษ จาก ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์  CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Quantum Technology Foundation (Thailand) [QTFT] ซึ่งให้ภาพรวมเกี่ยวกับแนวโน้มของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลก

อีกทั้งยังมีหัวข้อสัมมนาสำคัญในช่วง Network & Security ได้แก่:

  หัวข้อแรกพูดถึง “Future of AI in Network Operations” โดย Juniper Networks ได้รับเกียรติจาก คุณ วิภาวี ไพบูลย์เสมาทัศน์ – System Engineer จาก Juniper Networks Thailand และ คุณ พิชาญ ประทุมมาลย์- Specialist System Engineer, , Juniper Thailand  ที่มาพูดคุยแนวโน้มและบทบาทของ AIในการดำเนินงานด้านเครือข่าย (Network Operations) ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารจัดการเครือข่ายในองค์กรยุคใหม่ AI ไม่เพียงช่วย เพิ่มประสิทธิภาพ ในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครือข่ายแบบอัตโนมัติ แต่ยังช่วย ลด Downtime และ ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน รวมถึง แนวทางใหม่ของการสร้างเครือข่ายในดาต้าเซ็นเตอร์ ที่รองรับงานประมวลผล AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้ Ethernet เป็นโครงสร้างหลัก และยึดแนวคิด เปิด (Open) เพื่อความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูงสุด

          หัวข้อถัดไป มาใน หัวข้อ “MFA & FIDO” โดย OneSpan ได้รับเกียรติจาก Mr.  Tze Hoong, Chan – Technical Manager จาก OneSpan ที่จะมาบรรยาย กุญแจสู่การยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ ในยุคดิจิทัลที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วย โซลูชั่น MFA (Multi-Factor Authentication) และ FIDO (Fast Identity Online) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ โดยลดการพึ่งพา รหัสผ่าน (Passwords) และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

          หัวข้อถัดมา “Bring AI-powered Management to Your Converged Network with Ruckus” ได้รับเกียรติจาก คุณธีระพล สุขประไพพัฒน์ – System Engineer, Thailand, Myanmar, Laos. จาก Ruckus ที่มาแชร์ความรู้ในยุคที่องค์กรต้องเผชิญกับความซับซ้อนของระบบเครือข่าย ทั้งการใช้งานแบบมีสาย (LAN), ไร้สาย (Wi-Fi/WLAN), ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก การบริหารจัดการเครือข่ายแบบดั้งเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป — ทั้งในแง่ของ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการปรับตัวแบบเรียลไทม์ RUCKUS  จึงนำเสนอแนวคิด “AI-powered Management” สำหรับ Converged Network หรือโครงข่ายที่รวมทั้ง LAN, WLAN และ IoT ไว้ในระบบเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ

  หัวข้อที่น่าสนใจถัดมา “Empowering Digital Trust in a Connected World” ได้รับเกียรติจจาก คุณ วัชระ แม้งจริง- Security Consulting Manager จาก  Digitech One  โดยเน้นเรื่อง Digital Trust พูดถึงในยุคที่ ข้อมูล, ตัวตน, อุปกรณ์, และแอปพลิเคชัน ล้วนถูกเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป Entrust มุ่งเน้นการ “สร้างและยืนยันความน่าเชื่อถือ” ในทุกมิติของโลกดิจิทัล

หัวข้อถัดมา “Safeguarding Data in the AI Era: The Role of Access and Identity Management” ได้รับเกียรติจากMr. Jason Yang – Business Development Manager จาก Netand เป็นหัวข้อที่เจาะลึกถึง บทบาทสำคัญของการจัดการสิทธิ์และตัวตน (Access & Identity Management) ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนขององค์กร โดยเฉพาะในการปกป้องข้อมูลที่มีความอ่อนไหวและทรงคุณค่าสูง

         หัวข้อถัดมาที่น่าสนใจ “Accelerate Everything AI” ได้รับเกียรติจาก คุณ  Michael Wangsahardja – Senior Field Application Engineer การที่ Supermicro ช่วยองค์กรทุกขนาด “เร่งความสามารถด้าน AI ให้ถึงขีดสุด” ด้วยฮาร์ดแวร์และโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของข้อมูลและความซับซ้อนของโมเดล AI ในยุคใหม่

         หัวข้อถัดมา “ HCL Volt MX platform ” ได้รับเกีรยติจาก Mr. Gerardo Andri ที่จะมาพูดถึง แพลตฟอร์ม Low-code/Multiexperience Development ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้รวดเร็วขึ้น รองรับหลายช่องทาง (multi-channel) และตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัลแบบครบวงจร

          หัวข้อถัดมา ” Building Trust in The Digital World ” ได้รับเกีรยติจาก คุณ ณัฐพงศ์ วงศ์สว่าง – Pre-sale Mamager จาก I-Sprint เป็นหัวข้อที่เน้นย้ำถึง การสร้างความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกรรม การทำงาน และการสื่อสารขององค์กรต่างพึ่งพาระบบดิจิทัลเกือบทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็น การยืนยันตัวตน และการปกป้องข้อมูล , Digital Trust และ เทคโนโลยีด้าน Access Control, Digital Identity, และ Authentication ที่ได้รับการรับรองระดับสากล

          และหัวข้อสุดท้าย “Ivanti Overview: Simplifying IT, Securing the Future” ได้รับเกีรยติจาก คุณ อดิศร เขมวิชัยจาก – Assistant Security Consulting Manager  จาก Digitech One  พูดถึงภาพรวมของโซลูชันจาก Ivanti ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ไอทีที่มุ่งเน้นการช่วยให้องค์กร บริหารจัดการระบบ IT ได้ง่ายขึ้น และ ปกป้องความปลอดภัยไซเบอร์อย่างครอบคลุมรวมศูนย์การบริหารจัดการ IT (Unified IT Management) และ เสริมความมั่นคงปลอดภัยอย่างครบวงจร

          ในส่วน หัวข้อสัมมนาสำคัญในช่วง Software ได้แก่:

          หัวข้อแรก “ยอดขายทะลุเป้า ขยายขีดจำกัดธุรกิจ” ได้รับเกีรยติจาก คุณกอพล เลียวไพโรจน์ – General Manager  จาก Digitech One มาให้คำแนะนำการมียอดขายที่ทะลุเป้าไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นตัวสะท้อนถึงความสามารถในการเข้าใจตลาด ปรับตัวได้รวดเร็ว และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การทำยอดขายให้เกินเป้าอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างแรงส่งสำคัญในการ “ขยายขีดจำกัด” ของธุรกิจให้เติบโตเกินกว่าที่เคยคาดหวัง”Chaos: การจัดการข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ด้วย AI”

          หัวข้อถัดมา “ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้สำหรับการศึกษา “Library Management System “  ได้รับเกีรยติจากคุณ ธนิก ขูทก – Assistant Business Development Manager จาก Digitech One   ในยุคที่การจัดการทรัพยากรสารสนเทศเป็นหัวใจสำคัญของสถาบันการศึกษา Library Management System (LMS) หรือ ระบบบริหารจัดการห้องสมุด จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแล จัดเก็บ และให้บริการทรัพยากรทางวิชาการอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเมื่อใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์แท้ จะยิ่งช่วยให้ระบบมีเสถียรภาพ ปลอดภัย และรองรับการพัฒนาในระยะยาว

          หัวข้อถัดมา  “ติดปีกลูกค้าทำภาพ Render ภาพ Walkthough กับ V-ray & Enscape”  และ หัวข้อ  “ขายง่าย ขายดี! เพราะมี AI (ที่นี่ที่เดียว) มาฟัง Trick & Tip ” ได้รับเกีรยติจาก คุณ เอนก ทองแท้  -Senior Technical Support Manager ที่จะมานำเสนองานสถาปัตยกรรมหรือออกแบบภายในในยุคปัจจุบัน ต้องการมากกว่าแค่แบบ 2 มิติหรือโมเดล 3 มิติธรรมดา — ลูกค้าคาดหวัง “ประสบการณ์เสมือนจริง” ที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นอนาคตของโครงการได้ชัดเจนก่อนลงมือก่อสร้างจริง และพูดถึงยุคนี้การขายไม่ได้อาศัยแค่ “ทักษะ” อย่างเดียว แต่ต้องใช้ “เทคโนโลยี” มาช่วยเพิ่มความได้เปรียบ โดยเฉพาะ AI (Artificial Intelligence) ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมการตลาดและการขายอย่างสิ้นเชิงหัวข้อนี้จะพาคุณเจาะลึก เคล็ดลับและเทคนิค (Trick & Tip) ที่คนขายยุคใหม่ต้องรู้! เพื่อเพิ่มยอด ปิดการขายได้ไว และเข้าใจลูกค้าได้แบบเหนือชั้น ด้วยการใช้ AI อย่างชาญฉลาด

          หัวข้อถัดมา “ขยายฐานลูกค้า พลิกเกมวงการก่อสร้าง”  ได้รับเกีรยติจาก คุณ พศวัต ทิพย์โยธา – Regional Account Manager- Trimble Field Systems  ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า และการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นในทุกระดับ การที่ธุรกิจสามารถ “ขยายฐานลูกค้า” ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดขาย แต่ยังเป็นการ “พลิกเกม” สู่ความเป็นผู้นำในตลาด

            หัวข้อถัดมา  “ต้องรู้! แคมเปญสุดปัง “3X Success”  ได้รับเกีรยติจาก คุณ ธนิก ขูทก – Assistant Business Development Manager ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรง ความสำเร็จที่ยั่งยืนต้องอาศัยมากกว่าแค่ยอดขาย แคมเปญ “3X Success” ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นกลยุทธ์เร่งโตแบบครบมิติ โดยเน้น 3 แกนหลักที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเร็วขึ้น 3 เท่า ทั้งในแง่ของ ยอดขาย, การเติบโตของฐานลูกค้า, และ ภาพลักษณ์แบรนด์

          หัวข้อถัดมา “AI Architect พลิกโฉมวงการ! ให้ลูกค้าทำงานไวขึ้น” ได้รับเกีรยติจาก คุณ ธนัชชา พจน์ทวีเกียรติ – Co-founder, Head of Growth   การออกแบบสถาปัตยกรรมในอดีตมักใช้เวลานาน ทั้งในขั้นตอนการร่างแบบ แก้ไขงาน และนำเสนอ แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว! เมื่อ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยนักออกแบบคนใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนไอเดียให้เป็นแบบร่าง 3D ได้ภายในไม่กี่นาที วิเคราะห์พื้นที่ สร้างแบบจำลอง และแนะนำโซลูชันได้แบบเรียลไทม์ AI Architect คือการพลิกโฉมกระบวนการทำงานในวงการออกแบบสถาปัตย์และก่อสร้าง ให้ รวดเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และยืดหยุ่นขึ้น

          และหัวข้อสุดท้าย “เปิดตลาดใหม่ กับเครื่องพิมพ์ Direct to object” ได้รับเกีรยติจาก คุณ จักเรศ ลือวัฒนานนท์ – Deputy General Manager  การปรับแต่งสินค้าให้ “ไม่เหมือนใคร” คือจุดขาย เครื่องพิมพ์ Direct to Object (DTO) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่พลิกเกมธุรกิจการพิมพ์และของขวัญอย่างแท้จริง เพราะสามารถพิมพ์ลวดลาย สี หรือโลโก้ ลงบนวัตถุได้โดยตรง ไม่จำกัดพื้นผิวหรือรูปทรง — เปิดโอกาสให้สร้างสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะทางได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

          ภายในงานมีบูธจากพันธมิตรด้านเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Juniper Networks, OneSpan, Ruckus, Entrust, Netand, Supermicro, HCL Software , I-Sprint, Ivanti, LMS , Chaos, Timble Connect AR, LookX AI, Spacely AI, Roland/Dimense และ SketchUp   และอีกมากมาย เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ทดลองใช้งานโซลูชันใหม่ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด เช่น AI-Driven Security, Cloud Computing, IoT, Blockchain, Augmented Reality และนวัตกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรของตนเอง

           ซึ่งกิจกรรมในช่วงค่ำ “ DigitechOne Award Night Party ”  ทาง Digitech one ขอมอบรางวัล ขอบคุณ พาร์ทเนอร์ทุกๆท่าน ที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และการบริการของ Digitech One ตลอดปี 2024 ที่ผ่านมา  รวม 13 รางวัล มอบให้กับคู่ค้าธุรกิจองค์กร แบ่งรางวัลเป็น 8  ประเภท ประกอบด้วย

รางวัล  INFRASTRUCTURE EXCELLENCE AWARD 2024  เป็นรางวัลให้แก่องค์กรมีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จในการพัฒนาและดำเนินการ ให้แก่ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) และ  บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน)

 

รางวัล  CYBERSECURITY EXCELLENCE AWARD 2024  เป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้แก่คู่ค้าธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยมในทุก  ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้แก่ บริษัท ดาต้าโปรคอมพิวเตอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด และ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน)

 

รางวัล TOP CONTRIBUTOR 2024 เป็นรางวัลที่มอบให้องค์กรที่มีผลงานโดดเด่นและมีส่วนร่วมสำคัญในสาขาหรืออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งในปี 2024 ให้แก่  บริษัท ซีทีซี โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท โกลบอล เน็ตเวิร์ค เทคโนโลจิสต์ จำกัด และ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด

 

รางวัล NEW CHALLENGE PARTNER AWARD 2024  มอบให้องค์กรหรือบุคคลที่เป็นพันธมิตรใหม่ที่มีความโดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ให้แก่  บริษัท บริษัท เค ดี ดี ไอ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ซีทีซี โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด และ  บริษัท เนร่า (ประเทศไทย) จำกัด

 

รางวัล   INNOVATIVE PARTNER AWARD 2024 รางวัลที่มอบให้กับธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้าน นวัตกรรม (Innovation) และ การสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ ให้แก่  บริษัท โคเดียม จำกัด

 

รางวัล SketchUp Excellence Gold Reseller Award 2024 มอบให้ผู้แทนจำหน่าย (reseller) ของซอฟต์แวร์ SketchUp ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในด้านการขาย การบริการ และการสนับสนุนลูกค้าในระดับสูงสุดประจำปี 2024 ให้แก่  บริษัท ไอ.ที.โซลูชั่น คอมพิวเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

 

รางวัล SketchUp Renewal Excellence Award 2024  มอบให้แก่ ผู้แทนจำหน่าย (reseller) ที่มี ผลงานโดดเด่นการรักษาฐานลูกค้าเดิม และให้บริการหลังการขายอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ได้แก่  บริษัท วี อาร์ ดิจิตอล จำกัด 

 

รางวัล SketchUp Top Education Reseller Award 2024 รางวัลที่มอบให้กับ ผู้แทนจำหน่าย (reseller) ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในการนำเสนอและจัดจำหน่ายโซลูชัน SketchUp สำหรับภาคการศึกษา ประจำปี 2024 ได้แก่  บริษัท บ้านสเกตช์อัพ จำกัด

         รวมถึงจัดเซอร์ไพรส์ Special Concert  สุดพิเศษจาก จาก คุณ เบน ชลาทิศ สร้างบรรยากาศสุดประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นโอกาสดีในการพบปะสังสรรค์และขยายเครือข่ายทางธุรกิจไปพร้อมกัน

         เรียกได้ว่าในงานดังกล่าว เป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมและธุรกิจ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรชั้นนำและนวัตกรรมล้ำสมัย ทำให้งานนี้กลายเป็นอีกหนึ่งอีเว้นท์แห่งปีที่ไม่ควรพลาด!

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

60
79
90
74

66
83
94
126

120
136
139
145

189
219
433
797

937
1306
1222
1252


1200 x 800 ธนาคารไทยเตรียมพร้อมสู่ยุคควอนตัม! Digitech One ร่วมกับ DataOne Asia และ Entrust

ธนาคารไทยเตรียมพร้อมสู่ยุคควอนตัม! Digitech One ร่วมกับ DataOne Asia และ Entrust จัดงานสัมมนา “Harnessing Quantum Computing in Banking” เปิดมุมมองใหม่

          Digitech One ร่วมกับ Data One และ  Entrust  จัดงานสัมมนา “Harnessing Quantum Computing in Banking” เปิดมุมมองใหม่ อุตสาหกรรมการเงินไทยกำลังเดินหน้าสู่ยุค Quantum Computing อย่างเต็มรูปแบบ  ภายใต้หัวข้อ  “Challenges and Opportunities: Harnessing Quantum Computing in Banking” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยี Post-Quantum Cryptography (PQC) และแนวทางการเตรียมความพร้อมของระบบธนาคารในอนาคต    

           ภายในงานสัมมนาครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอถึงความสำคัญของ Quantum Computing ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงระบบไอทีและความปลอดภัยทางการเงิน โดยเฉพาะในเรื่องของ Post-Quantum Cryptography (PQC) ซึ่งเป็นแนวทางป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมถูกนำมาใช้งานจริง

            โดยคุณ รุ่งทิพย์  วงศ์ทวีวัฒน์  – Regional Sale Director(SEA)  จากบริษัท Entrust เปิดงานพร้อมกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ โดยเน้นว่า “เทคโนโลยีควอนตัมไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นความจริงในอุตสาหกรรมการเงิน เราทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

         อีกทั้ง ยังได้รับเกรียติจาก คุณอดิศร  เข็มวิชัย -Assistant Security Consulting Manager จาก Digitech One และ คุณเจตสิก อนันตคุณูปกร- Senior Technical Sales Consultant  จาก Entrust ได้ให้ภาพรวมเกี่ยวกับโซลูชันของ Entrust ที่จะช่วยสนับสนุนระบบธนาคารให้สามารถรับมือกับยุคควอนตัมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานนี้ ได้จัดเสวนาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ อาทิ

    • พล.ต.ต.เฉลิมชัย วงษ์เกิด – ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (สกมช.)
    • ดร.ภูมิพงษ์ ไชยวงศ์คต – ผู้ร่วมก่อตั้ง QFTF
    • คุณเจตสิทธิ์ อนันตกุลนคร – Senior Representative จาก Entrust

        โดยมีการอภิปรายถึงแนวโน้ม การเตรียมความพร้อมของระบบไอทีในภาคการเงิน และการพัฒนาแผนงานเพื่อนำ Post-Quantum Cryptography หรือ PQC ไปใช้จริงในยุคควอนตัมต่อธุรกิจธนาคาร

ภายในงานนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมจากภาคการเงินและเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยในยุคของ Quantum Computing   เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานสัมมนานี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ภาคการเงินของไทยเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของ Quantum Computing และ Post-Quantum Cryptography อย่างมั่นคงและปลอดภัย

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

“Privileged Access The First Line of Defense Against Breaches with HIWARE”

Digitech One และ Netand จัดงาน “Privileged Access: The First Line of Defense Against Breaches with HIWARE”

          บริษัท DIGITECH ONE ร่วมกับ NETAND ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในด้าน Privileged Access Management จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีใต้จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Privileged Access: The First Line of Defense Against Breaches with HIWARE” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสิทธิ์เข้าถึงระดับสูง (Privileged Access Management: PAM) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมความปลอดภัยและการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในองค์กร

           โดย DIGITECH ONE เป็นผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ ส่วน NETAND เป็นผู้พัฒนาโซลูชัน PAM ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นในการสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ให้ก้าวสู่อนาคตที่ปลอดภัยแบบยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

          ซึ่งได้รับเกียรติจาก Mr. Jason Yang  – Business Development Manager และ Mr. Victor Hong  – Business Development Manager ผู้เชี่ยวชาญจาก NETAND อัปเดตให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการจัดการสิทธิ์เข้าถึง ในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ:

        1. The Importance of Privileged Access Management (PAM):
ความสำคัญของการจัดการสิทธิ์เข้าถึงระดับสูงในองค์กร โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ผู้ดูแลระบบ หรือบัญชีผู้ใช้งานที่มีอำนาจสูงสุด การจัดการ PAM อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น

  • การโจมตีผ่านบัญชีที่ถูกแฮ็ก
  • การใช้งานบัญชีเกินขอบเขตที่กำหนด
  • ความเสียหายที่อาจเกิดจากการละเมิดข้อมูล

        2. HIWARE: The Comprehensive PAM Solution: HIWARE ของโซลูชัน PAM ที่ครอบคลุมและทันสมัยที่สุด โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

  • การจัดการบัญชีผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์พิเศษอย่างปลอดภัย
  • การตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมการใช้งานแบบเรียลไทม์
  • การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลตามนโยบายที่กำหนด
  • การสร้างรายงานเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง

      3. The Threat Landscape: Attackers Inside and Out: แนวโน้มภัยคุกคามทางไซเบอร์ในยุคปัจจุบัน ทั้งจากภัยคุกคามภายในองค์กร (Insider Threats) เช่น การใช้สิทธิ์โดยมิชอบ หรือการละเมิดนโยบาย และภัยคุกคามภายนอก (External Threats) เช่น การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing) หรือการโจมตีแบบ Brute Force โดยมีคำแนะนำในการป้องกัน ได้แก่

  • การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของบัญชีผู้ใช้งาน
  • การใช้ระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนกิจกรรมที่ผิดปกติ
  • การนำโซลูชัน PAM เช่น HIWARE มาใช้ในองค์กร

         อีกทั้ง ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้กรณีศึกษาจากองค์กรที่ใช้ HIWARE ในประสิทธิภาพในการตรวจสอบการใช้งานด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส  รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์  และ การ Demo การใช้งาน NETAND ฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุม ของ HIWARE เช่น:

  • การจัดการบัญชีผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์พิเศษ
  • การตรวจสอบกิจกรรมแบบเรียลไทม์
  • การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลตามนโยบายที่กำหนด
  • การสร้างรายงานและบันทึกการใช้งานเพื่อการตรวจสอบ

       บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งมีทั้งผู้บริหารด้าน IT และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยผู้เข้าร่วมแสดงความสนใจที่จะนำโซลูชัน HIWARE ไปปรับใช้ในองค์กรของตน 

         งานสัมมนานี้ไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการบริหารจัดการสิทธิ์การเข้าถึงในยุคดิจิทัลที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น การนำโซลูชัน PAM อย่าง HIWARE มาใช้จึงเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับความปลอดภัยในองค์กร เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

DIGITECH ONE ร่วมกับ I-Sprint เปิดตัวโซลูชันเทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุด 1200 x 630

Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management

         โลกยุคดิจิทัลหลังผ่านวิกฤต COVID-19 เปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากภายนอกองค์กรและใช้อุปกรณ์ของตัวเอง (BYOD) มากขึ้น การบริหารจัดการอุปกรณ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งอุปกรณ์พกพา คอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ และเซิร์ฟเวอร์บนคลาวด์ให้เป็นไปตามนโยบายและข้อบังคับของบริษัท โดยเฉพาะการจัดการ Software License และ Security Patch กลายเป็นความท้าทายสำหรับหลายๆ องค์กร

          Digitech One ผู้จัดจำหน่ายโซลูชัน Enterprise Network & Security ในเครือของ SVOA จึงได้จับมือกับ HCL Software ให้บริการ BigFix Unified Endpoint Management ที่สามารถบริหารจัดการ Desktop, Laptop, Server และ Mobile ได้อย่างครบวงจร ผสานด้วยเทคโนโลยี Generative AI อัจฉริยะ ครอบคลุมทั้งเรื่อง Patch, Software และ Security Compliance ไม่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะอยู่ที่ On-premises, Virtual, Cloud หรือ Work from Home ก็ตาม

 รู้จัก BigFix Unified Endpoint Management จาก HCL Software

          HCL Software เป็นบริษัทสัญชาติอินเดียที่ดำเนินธุรกิจซอฟต์แวร์ในเครือ HCL Technologies มีสำนักงานใหญ่ที่สหรัฐฯ ให้บริการโซลูชันด้าน Business & Industry Applications, AI & Intelligent Operations, Total Experience, Data & Analytics และ Cybersecurity ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการกว่า 20,000 รายจากทั่วโลก พนักงานมากกว่า 7,800 คน และซอฟต์แวร์มากกว่า 80 สายการผลิต สร้างรายได้ในปีที่ผ่านมาสูงถึง 50,000 ล้านบาท

         ปี 2019 HCL Software ได้เข้าซื้อซอฟต์แวร์ 8 รายการจาก IBM เพื่อมาพัฒนาต่อยอดให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าในโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือ BigFix ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Unified Endpoint Management (UEM) ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบ IT Operations และ Security สามารถค้นหา บริหารจัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์ทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แบบใด ใช้ระบบปฏิบัติการอะไร หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม

        จุดเด่นของ BigFix UEM คือ สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ได้อย่างครบวงจร ทั้งการทำ Patch Management, Software Asset Management, Compliance Management และ Security Remediation ช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาและแก้ไขปัญหาที่พบบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มีอัตราความสำเร็จในการอัปเดตแพตช์ครั้งแรกสูงถึง 98%

          มากกว่า Patch Management – จัดการ Endpoint Lifecycle และ Software License อย่างครบวงจรHCL BigFix

          สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Desktop, Laptop, Server หรือ Mobile ตั้งแต่การค้นหาอุปกรณ์ขององค์กรทั้งหมด ตั้งค่าระบบปฏิบัติการเบื้องต้น สร้างโปรไฟล์การใช้งานต่างๆ ติดตั้งซอฟต์แวร์ อัปเดตแพตช์ล่าสุด รวมถึงการเสริมแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัย ไปจนถึงการลบข้อมูลทั้งหมดเมื่ออุปกรณ์สูญหายหรือเลิกใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะอยู่ในออฟฟิศ นอกสถานที่ ภายใน Data Center หรือบน Cloud ก็ตาม โดยรองรับระบบปฏิบัติการมากกว่า 100 ประเภททั้ง Windows, macOS, IBM AIX, HP-UX, Solaris, RHEL, SUSE, VMware ESX Server, CentOS, Debian, Ubuntu รวมถึง iOS และ Android

          HCL BigFix มีสถาปัตยกรรมแบบ Client-Server โดยเซิร์ฟเวอร์ศูนย์กลางของ HCL BigFix 1 เครื่อง สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 300,000 เครื่อง ผ่านทาง Agent ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก (1 Process) ใช้หน่วยความจำน้อยกว่า 25 MB และ CPU น้อยกว่า 2% ที่สำคัญ คือ Agent สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ บนอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องรอรอบการสแกนรายวันหรือรายสัปดาห์เหมือนผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นๆ

                     นอกจากนี้ HCL BigFix ยังสามารถติดตามการใช้ซอฟต์แวร์เชิงธุรกิจบนอุปกรณ์ต่างๆ ขององค์กรได้มากกว่า 1,000 รายการ เช่น Microsoft, Oracle, SAP, Adobe, VMware เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้ License ของซอฟต์แวร์ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าพบอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์มากเกินความจำเป็นหรือไม่มีการใช้งาน ก็สามารถถอนการติดตั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายและการสูญเสียทรัพยากรเครื่องโดยใช่เหตุลงได้

          ตรวจสอบ Security Compliance พร้อมอัปเดตแพตช์เพื่ออุดช่องโหว่โดยอัตโนมัติ

         ในด้านของความมั่นคงปลอดภัย HCL BigFix สามารถตรวจสอบการตั้งค่าของอุปกรณ์ว่าเป็นไปตาม Security Baseline ที่มีมากกว่า 38,000 รายงาน ตามมาตรฐานสากลจาก CIS, DISA STIG, USGCB, ISO, HIPAA หรือ PCI DSS ได้ รวมถึงสามารถสร้างรายการตรวจสอบของตนเองตามนโยบายของบริษัทหรือหน่วยงานกำกับดูแล ในกรณีที่พบความไม่สอดคล้อง HCL BigFix จะทำการแจ้งเตือน พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดขององค์กรจะมีมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน

          HCL BigFix ยังสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ Vulnerability Management ชั้นนำอย่าง Tenable, Qualys และ Rapid 7 เพื่อนำผลลัพธ์การตรวจสอบช่องโหว่มาค้นหาและติดตั้ง Security Patch ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ลดความล่าช้าในการอัปเดตแพตช์และความเสี่ยงการถูกเจาะช่องโหว่จากเหล่าอาชญากรไซเบอร์

แก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ ลดภาระผู้ดูแลระบบด้วย Gen AI & Runbook AI

          HCL BigFix ให้บริการ AI-powered Employee eXperience (AEX) ซึ่งเป็น Generative AI Chatbot สำหรับทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย IT Help Desk ในการตอบคำถามและแก้ปัญหาให้แก่ผู้ใช้ ทั้งด้านการตั้งค่าหรือการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ด้วย Use Case เริ่มต้นที่มีมาให้มากกว่า 600 รูปแบบ ผู้ใช้สามารถพิมพ์แชตหรือใช้เสียงในการสอบถามเหมือนที่ใช้คุยกับมนุษย์ปกติได้เลย AEX ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Self-Heal ที่ช่วยแก้ปัญหาระบบและแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ให้โดยอัตโนมัติ ยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้งาน ในขณะที่ลดภาระของ IT Help Desk ที่ต้องรับเรื่องจากผู้ใช้ลง

          อีกหนึ่งบริการ Generative AI คือ Runbook AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ดูแลระบบในการจัดการงานที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นประจำ รวมถึง Ticket/Case พื้นฐานที่พบบ่อย เช่น รีเซ็ตรหัสผ่าน รีบูตเซิร์ฟเวอร์ เพิ่ม/ลบบัญชีผู้ใช้ สำรองข้อมูล เป็นต้น ซึ่งงานเหล่านี้มักมีขั้นตอนการทำงานเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว สามารถจัดทำเป็น Runbook เพื่อดำเนินการโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาหรือมีการเปิด Ticket/Case ซึ่งครอบคลุมมากกว่า 350 Use Cases บน Windows Server, Linux Server, Database Server และ Active Directory นอกจากนี้ Runbook AI ยังสามารถเรียนรู้ Use Case ใหม่ๆ จาก Ticket/Case ที่เปิดเข้ามาได้ ช่วยให้ในอนาคตสามารถแก้ปัญหาได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องให้ผู้ดูแลระบบลงมาจัดการด้วยตัวเองอีก ลดภาระของผู้ดูแลระบบลงได้สูงสุดถึง 75%

          Digitech One ผู้จัดจำหน่าย HCL BigFix อย่างเป็นทางการในไทย

จุดเด่นของ HCL BigFix คือให้บริการครอบคลุมทั้ง Patch Management, Endpoint Management, Software Asset Management และ Security Compliance & Remediation ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างบูรณาการภายในแพลตฟอร์มเดียว ต่างจากคู่แข่งในท้องตลาดที่ให้บริการเพียงบางส่วน ทั้งยังติดตั้งใช้งานได้ทั้งแบบ On-premises และ Cloud ในขณะที่โมเดล License ก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบ Perpetual License หรือ Subscription เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้ใช้งาน

          Digitech One ในเครือ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายโซลูชันของ HCL Software รวมถึง BigFix Unified Endpoint Management อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาและให้บริการโซลูชันด้าน Endpoint & Patch Management และ Cybersecurity แก่องค์กรธุรกิจมานานกว่า 10 ปี พร้อมดูแลเหล่าพาร์ทเนอร์และลูกค้าตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการ ออกแบบและติดตั้ง อบรมการใช้งาน ไปจนถึงการสนับสนุนหลังการขาย เพื่อให้การบริหารจัดการอุปกรณ์ภายในองค์กรเป็นเรื่องง่าย ลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยขององค์กร รวมถึงภาระของผู้ดูแลระบบจากการใช้เทคโนโลยี Generative AI เข้ามาช่วยสนับสนุน

หากลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าซอฟต์แวร์และโซลูชั่น สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด

📞 Tel : ​ +66 2686 3000 ​
📧Email :info@digitechone.co.th
🌐https://www.digitechone.co.th

Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management
Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management
Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management
Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management

S__16425006_0
{"ARInfo":{"IsUseAR":false},"Version":"1.0.0","MakeupInfo":{"IsUseMakeup":false},"FaceliftInfo":{"IsChangeEyeLift":false,"IsChangeFacelift":false,"IsChangePostureLift":false,"IsChangeNose":false,"IsChangeFaceChin":false,"IsChangeMouth":false,"IsChangeThinFace":false},"BeautyInfo":{"SwitchMedicatedAcne":false,"IsAIBeauty":false,"IsBrightEyes":false,"IsSharpen":false,"IsOldBeauty":false,"IsReduceBlackEyes":false},"HandlerInfo":{"AppName":2},"FilterInfo":{"IsUseFilter":false}}
Digitech One ยกระดับการจัดการอุปกรณ์ครบวงจรด้วย HCL BigFix Unified Endpoint Management มากกว่าแค่ Patch Management

Load More